A non-toxic home cleaning.
12 สิ่งมหัศจรรย์ ช่วยทำความสะอาดบ้านแบบไร้สารพิษ
ของบางอย่างที่เราเห็นเป็นประจำทุกวัน บางทีก็มีประโยชน์มากกว่าที่เราคิดลองทำตามวิธีนี้ดูสักครั้ง คุณอาจจะติดใจและไม่มีความจำเป็นต้องซื้อสารเคมีมาทำความสะอาดบ้านอีกเลยก็ได้นะ
มีหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่วางขายตามท้องตลาด ให้เราได้เลือกใช้ไปทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้าน รวมไปถึงส่วนต่าง ๆ ในบ้านแต่ทุกอย่างล้วนเป็นสารเคมีที่ทำให้เราต้องระมัดระวังอย่างยิ่งยวดทุกครั้งที่ต้องทำความสะอาดบ้าน วันนี้เลยอยากนำเสนอสิ่งที่จะช่วยให้คุณทำความสะอาดบ้านได้แบบไม่ต้องระแวงกับอันตรายจากสารเคมีให้วุ่นวายมาฝากกัน
1. ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
เชื้อโรคย่อมอยู่อย่างกระจัดกระจายไปทั่วทั้งบ้าน ไม่ว่าคุณจะทำความสะอาดบ้านบ่อยแค่ไหนก็ตาม ลองกำจัดเชื้อโรคด้วยการผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) กับน้ำ ในอัตราส่วนเท่า ๆ กัน เพื่อใช้เป็นน้ำยาทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ เท่านี้คุณก็จะสามารถฆ่าเชื้อโรคในบ้านได้บ่อยเท่าที่คุณต้องการ แบบประหยัดเงินในกระเป๋าด้วย
2. อะลูมิเนียมฟอยล์
คืนความสดใสให้อุปกรณ์เครื่องครัวที่เป็นเครื่องเงินทั้งหลาย ด้วยอะลูมิเนียมฟอยล์ เพียงแค่ต้มน้ำ 1 ลิตร แล้วใส่เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ พร้อมกับอะลูมิเนียมฟอยล์ 1 ชิ้น (ขนาดพอประมาณ) ลงในหม้อ รอจนน้ำเดือดแล้วจึงจุ่มของที่ต้องการทำความสะอาดลงไป แช่ทิ้งไว้ประมาณ 10 วินาที หรือนานกว่านั้นในกรณีที่มีคราบสกปรกมาก หรือจะปั้นฟอยล์เป็นก้อน แล้วขัดลงไปบนกระทะก็สามารถช่วยขจัดคราบอาหารที่ติดในกระทะได้ด้วยเช่นกันครับ
3. น้ำอัดลม
เบื่อกับปัญหาน้ำเอ่อเพราะท่ออุดตันกันบ้างไหมคะ เรามาแก้ปัญหานี้อย่างปลอดภัยด้วยน้ำอัดลมกันดีกว่าค่ะ ใช้น้ำอัดลมแบบไม่ต้องแช่เย็น เทลงไปในท่อน้ำทิ้ง รอให้ฟองจากความซ่าหายไปสักพัก แล้วเทน้ำร้อนตามลงไป กรดฟอสโฟลิกในน้ำอัดลมจะช่วยล้างคราบเหนียว ๆ ที่ติดอยู่ตามท่อให้หลุดไปได้ อ้อ! คุณยังสามารถใช้น้ำอัดลมทำความสะอาดกระจกบังลมของรถได้อีกด้วยล่ะ
4. น้ำส้มสายชู
น้ำส้มสายชูถือเป็นน้ำยาล้างอเนกประสงค์ ที่เผลอ ๆ อาจจะมีประสิทธิภาพดีกว่าน้ำยาล้างทำความสะอาดที่มีขายทั่วไปด้วยซ้ำ แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงประสิทธิภาพของน้ำส้มสายชูในการแก้ไขปัญหาท่ออุดตันและน้ำยาล้างทำความสะอาดโครเมียมและสเตนเลส เริ่มจากท่อกันก่อน เพียงเทเบกกิ้งโซดาครึ่งถ้วย ตามด้วยน้ำส้มสายชู 1 ถ้วย ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที แล้วราดตามด้วยน้ำร้อน ปัญหาท่อตันก็จะหมดไป ต่อด้วยคืนความสดใสให้โครเมียมและสเตนเลสโดยใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูเล็กน้อย แล้วเช็ดทำความสะอาดคราบหมอง ๆ ให้หมดจด
5. ยาสีฟัน
ลบรอยเปื้อนบนผนังด้วยยาสีฟัน (ชนิดที่ไม่ใช่เจล) ป้ายยาสีฟันลงบนรอยเปื้อนแล้วใช้ผ้าหรือแปรงขัดจนรู้สึกว่ารอยเปื้อนเริ่มหายไป จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอีกครั้งก็เป็นอันเสร็จสิ้น ข้อดีอีกข้อของยาสีฟันคือ เป็นยาดับกลิ่นเหม็นเปรี้ยวได้ ใช้ยาสีฟันล้างขวดนม หรือเครื่องใช้เด็กทารกเพื่อดับกลิ่นเปรี้ยวจากนมก็ได้เช่นกันค่ะ
6. เปลือกส้ม
นอกจากเปลือกส้มจะช่วยไล่ยุงได้แล้ว ยังมีคุณสมบัติช่วยทำความสะอาดคราบน้ำที่ติดอยู่ตามก๊อกน้ำ รวมไปถึงคราบสกปรกที่ติดอยู่ตามอ่างล้างหน้าได้ด้วย โดยถูเปลือกส้มบนคราบน้ำและคราบสกปรกตามอ่างล้างหน้า เท่านี้ก๊อกน้ำและอ่างล้างหน้าก็จะสะอาดเอี่ยม หรือถ้าคุณใช้เปลือกส้มด้านใน (ด้านสีขาว) ทำความสะอาดพื้นไม้ ก็จะช่วยให้พื้นไม้ดูมันวาว และมีกลิ่นสดชื่น เหมือนได้ถูทำความสะอาดทุกวันเลยล่ะ
7. แอลกอฮอล์
Rubbing Alcohol หรือ แอลกอฮอล์ที่หมอใช้เช็ดรอบ ๆ บาดแผล สามารถนำมาเช็ดทำความสะอาดคราบเปื้อนต่าง ๆ ได้เช่นกัน วิธีการก็คือ ใช้ไม้พันผ้าสะอาดแล้วจุ่มลงในแอลกอฮอล์ เช็ดทำความสะอาดบริเวณขอบประตูและหน้าต่าง หรือผสม แอลกอฮอล์ครึ่งถ้วย กับน้ำประมาณ 1 ลิตร เช็ดทำความสะอาดกระจกหน้าต่าง แล้วใช้กระดาษหนังสือพิมพ์เช็ดอีกครั้งเพื่อความเงางาม
8. เกลือ
ประโยชน์ของเกลือมีไม่น้อยเลยทีเดียว นอกจากใช้ปรุงอาหารและบำรุงสุขภาพปากของเราแล้ว เกลือยังมีคุณสมบัติล้างทำความสะอาดเครื่องต้มกาแฟ เหยือกและแก้วได้อีกด้วย โดยโรยเกลือลงบนฟองน้ำแทนน้ำยาล้างจานแล้วล้างตามปกติ แถมเรายังสามารถใช้เกลือยืดอายุการใช้งานของฟองน้ำได้อีกด้วย โดยผสมเกลือ 1 ส่วนกับน้ำประมาณ 1 ลิตร แล้วแช่ฟองน้ำทิ้งไว้ทั้งคืน หรือจะกำจัดสนิมที่ติดกระทะด้วยการตั้งกระทะให้ร้อนแล้วใส่เกลือลงไปประมาณ 1 ส่วน 4 ถ้วย ขัดด้วยแปรงลวด แล้วเช็ดทำความสะอาด ก่อนใช้งานกระทะอีกครั้งอย่าลืมใช้น้ำมันทาบาง ๆ เพื่อเคลือบกระทะก่อนด้วยนะครับ
9. น้ำเดือด
ใช้ผ้าจุ่มน้ำที่กำลังเดือดแล้วเช็ดรอบ ๆ คราบมันที่ติดตามไมโครเวฟและเตา ถ้าคราบฝังแน่นจนวิธีนี้ใช้ไม่ได้ผล ให้ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำ ป้ายไปตามคราบเปื้อน แล้วใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดอีกรอบ ก็หมดจดแล้วจ้า
10. บอแรกซ์
คุณสามารถทำน้ำยาล้างจานด้วยตัวเองง่าย ๆ ด้วยการผสมบอแรกซ์ 1 ส่วนต่อเบกกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะ นอกจากนี้บอแรกซ์ยังสามารถฆ่าเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียในท่อน้ำทิ้งได้อีกด้วยล่ะ วิธีการก็แค่เทบอแรกซ์ 3 ช้อนโต๊ะลงในท่อน้ำทิ้ง ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง ทำอย่างนี้ เดือนละ 2 ครั้ง ปัญหาท่ออุดตันก็จะไม่มากวนใจเราอีก
11. เบกกิ้งโซดา
เราพูดถึงเบกกิ้งโซดากันอยู่บ่อยครั้ง ในเรื่องของการใช้เป็นอุปกรณ์เช็ด ล้าง ทำความสะอาดสิ่งของต่าง ๆ แต่คุณสมบัติอีกข้อของเบกกิ้งโซดาที่เรายังไม่ได้พูดถึงก็คือ คุณสมบัติในเรื่องของการกำจัดกลิ่น เราสามารถใช้เบกกิ้งโซดากำจัดกลิ่นหอม กระเทียมที่ติดตามนิ้วมือเราได้ ด้วยการใช้เบกกิ้งโซดาในปริมาณเล็กน้อยล้างมือแทนสบู่ก็ได้นะครับ
12.ซอสมะเขือเทศ
ซอสมะเขือเทศที่เราใช้จิ้มเพื่อเพิ่มรสอาหารในครัวบ้านเรานี่ล่ะค่ะ สามารถใช้ขจัดคราบไหม้ที่ติดแน่นอยู่ตามผนังข้าง ๆ เตาไมโครเวฟได้ง่าย ๆ เริ่มด้วยการตั้งไมโครเวฟที่กำลังไฟต่ำสุด แล้วกดปุ่มให้เครื่องทำงานสักพักให้พออุ่น ๆ จากนั้นป้ายซอสมะเขือเทศไปตามจุดที่เปื้อน ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วใช้ผ้าเช็ดออกก็เรียบร้อย นอกจากนี้ ซอสมะเขือเทศยังสามารถช่วยคืนความใหม่ให้หม้อสังกะสีได้อีกด้วย วิธีการก็คือ ทาซอสมะเขือเทศบาง ๆ ให้ทั่วทั้งหม้อ ทิ้งไว้สักพักแล้วล้างออก เท่านี้หม้อของคุณก็จะกลับมาเหมือนใหม่ได้แล้ว
เรียบเรียงข้อมูลเพิ่มเติมโดย manman
12 สิ่งมหัศจรรย์ ช่วยทำความสะอาดบ้านแบบไร้สารพิษ
ของบางอย่างที่เราเห็นเป็นประจำทุกวัน บางทีก็มีประโยชน์มากกว่าที่เราคิดลองทำตามวิธีนี้ดูสักครั้ง คุณอาจจะติดใจและไม่มีความจำเป็นต้องซื้อสารเคมีมาทำความสะอาดบ้านอีกเลยก็ได้นะ
มีหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่วางขายตามท้องตลาด ให้เราได้เลือกใช้ไปทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้าน รวมไปถึงส่วนต่าง ๆ ในบ้านแต่ทุกอย่างล้วนเป็นสารเคมีที่ทำให้เราต้องระมัดระวังอย่างยิ่งยวดทุกครั้งที่ต้องทำความสะอาดบ้าน วันนี้เลยอยากนำเสนอสิ่งที่จะช่วยให้คุณทำความสะอาดบ้านได้แบบไม่ต้องระแวงกับอันตรายจากสารเคมีให้วุ่นวายมาฝากกัน
1. ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
เชื้อโรคย่อมอยู่อย่างกระจัดกระจายไปทั่วทั้งบ้าน ไม่ว่าคุณจะทำความสะอาดบ้านบ่อยแค่ไหนก็ตาม ลองกำจัดเชื้อโรคด้วยการผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) กับน้ำ ในอัตราส่วนเท่า ๆ กัน เพื่อใช้เป็นน้ำยาทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ เท่านี้คุณก็จะสามารถฆ่าเชื้อโรคในบ้านได้บ่อยเท่าที่คุณต้องการ แบบประหยัดเงินในกระเป๋าด้วย
2. อะลูมิเนียมฟอยล์
คืนความสดใสให้อุปกรณ์เครื่องครัวที่เป็นเครื่องเงินทั้งหลาย ด้วยอะลูมิเนียมฟอยล์ เพียงแค่ต้มน้ำ 1 ลิตร แล้วใส่เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ พร้อมกับอะลูมิเนียมฟอยล์ 1 ชิ้น (ขนาดพอประมาณ) ลงในหม้อ รอจนน้ำเดือดแล้วจึงจุ่มของที่ต้องการทำความสะอาดลงไป แช่ทิ้งไว้ประมาณ 10 วินาที หรือนานกว่านั้นในกรณีที่มีคราบสกปรกมาก หรือจะปั้นฟอยล์เป็นก้อน แล้วขัดลงไปบนกระทะก็สามารถช่วยขจัดคราบอาหารที่ติดในกระทะได้ด้วยเช่นกันครับ
3. น้ำอัดลม
เบื่อกับปัญหาน้ำเอ่อเพราะท่ออุดตันกันบ้างไหมคะ เรามาแก้ปัญหานี้อย่างปลอดภัยด้วยน้ำอัดลมกันดีกว่าค่ะ ใช้น้ำอัดลมแบบไม่ต้องแช่เย็น เทลงไปในท่อน้ำทิ้ง รอให้ฟองจากความซ่าหายไปสักพัก แล้วเทน้ำร้อนตามลงไป กรดฟอสโฟลิกในน้ำอัดลมจะช่วยล้างคราบเหนียว ๆ ที่ติดอยู่ตามท่อให้หลุดไปได้ อ้อ! คุณยังสามารถใช้น้ำอัดลมทำความสะอาดกระจกบังลมของรถได้อีกด้วยล่ะ
4. น้ำส้มสายชู
น้ำส้มสายชูถือเป็นน้ำยาล้างอเนกประสงค์ ที่เผลอ ๆ อาจจะมีประสิทธิภาพดีกว่าน้ำยาล้างทำความสะอาดที่มีขายทั่วไปด้วยซ้ำ แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงประสิทธิภาพของน้ำส้มสายชูในการแก้ไขปัญหาท่ออุดตันและน้ำยาล้างทำความสะอาดโครเมียมและสเตนเลส เริ่มจากท่อกันก่อน เพียงเทเบกกิ้งโซดาครึ่งถ้วย ตามด้วยน้ำส้มสายชู 1 ถ้วย ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที แล้วราดตามด้วยน้ำร้อน ปัญหาท่อตันก็จะหมดไป ต่อด้วยคืนความสดใสให้โครเมียมและสเตนเลสโดยใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูเล็กน้อย แล้วเช็ดทำความสะอาดคราบหมอง ๆ ให้หมดจด
5. ยาสีฟัน
ลบรอยเปื้อนบนผนังด้วยยาสีฟัน (ชนิดที่ไม่ใช่เจล) ป้ายยาสีฟันลงบนรอยเปื้อนแล้วใช้ผ้าหรือแปรงขัดจนรู้สึกว่ารอยเปื้อนเริ่มหายไป จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอีกครั้งก็เป็นอันเสร็จสิ้น ข้อดีอีกข้อของยาสีฟันคือ เป็นยาดับกลิ่นเหม็นเปรี้ยวได้ ใช้ยาสีฟันล้างขวดนม หรือเครื่องใช้เด็กทารกเพื่อดับกลิ่นเปรี้ยวจากนมก็ได้เช่นกันค่ะ
6. เปลือกส้ม
นอกจากเปลือกส้มจะช่วยไล่ยุงได้แล้ว ยังมีคุณสมบัติช่วยทำความสะอาดคราบน้ำที่ติดอยู่ตามก๊อกน้ำ รวมไปถึงคราบสกปรกที่ติดอยู่ตามอ่างล้างหน้าได้ด้วย โดยถูเปลือกส้มบนคราบน้ำและคราบสกปรกตามอ่างล้างหน้า เท่านี้ก๊อกน้ำและอ่างล้างหน้าก็จะสะอาดเอี่ยม หรือถ้าคุณใช้เปลือกส้มด้านใน (ด้านสีขาว) ทำความสะอาดพื้นไม้ ก็จะช่วยให้พื้นไม้ดูมันวาว และมีกลิ่นสดชื่น เหมือนได้ถูทำความสะอาดทุกวันเลยล่ะ
7. แอลกอฮอล์
Rubbing Alcohol หรือ แอลกอฮอล์ที่หมอใช้เช็ดรอบ ๆ บาดแผล สามารถนำมาเช็ดทำความสะอาดคราบเปื้อนต่าง ๆ ได้เช่นกัน วิธีการก็คือ ใช้ไม้พันผ้าสะอาดแล้วจุ่มลงในแอลกอฮอล์ เช็ดทำความสะอาดบริเวณขอบประตูและหน้าต่าง หรือผสม แอลกอฮอล์ครึ่งถ้วย กับน้ำประมาณ 1 ลิตร เช็ดทำความสะอาดกระจกหน้าต่าง แล้วใช้กระดาษหนังสือพิมพ์เช็ดอีกครั้งเพื่อความเงางาม
8. เกลือ
ประโยชน์ของเกลือมีไม่น้อยเลยทีเดียว นอกจากใช้ปรุงอาหารและบำรุงสุขภาพปากของเราแล้ว เกลือยังมีคุณสมบัติล้างทำความสะอาดเครื่องต้มกาแฟ เหยือกและแก้วได้อีกด้วย โดยโรยเกลือลงบนฟองน้ำแทนน้ำยาล้างจานแล้วล้างตามปกติ แถมเรายังสามารถใช้เกลือยืดอายุการใช้งานของฟองน้ำได้อีกด้วย โดยผสมเกลือ 1 ส่วนกับน้ำประมาณ 1 ลิตร แล้วแช่ฟองน้ำทิ้งไว้ทั้งคืน หรือจะกำจัดสนิมที่ติดกระทะด้วยการตั้งกระทะให้ร้อนแล้วใส่เกลือลงไปประมาณ 1 ส่วน 4 ถ้วย ขัดด้วยแปรงลวด แล้วเช็ดทำความสะอาด ก่อนใช้งานกระทะอีกครั้งอย่าลืมใช้น้ำมันทาบาง ๆ เพื่อเคลือบกระทะก่อนด้วยนะครับ
9. น้ำเดือด
ใช้ผ้าจุ่มน้ำที่กำลังเดือดแล้วเช็ดรอบ ๆ คราบมันที่ติดตามไมโครเวฟและเตา ถ้าคราบฝังแน่นจนวิธีนี้ใช้ไม่ได้ผล ให้ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำ ป้ายไปตามคราบเปื้อน แล้วใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดอีกรอบ ก็หมดจดแล้วจ้า
10. บอแรกซ์
คุณสามารถทำน้ำยาล้างจานด้วยตัวเองง่าย ๆ ด้วยการผสมบอแรกซ์ 1 ส่วนต่อเบกกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะ นอกจากนี้บอแรกซ์ยังสามารถฆ่าเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียในท่อน้ำทิ้งได้อีกด้วยล่ะ วิธีการก็แค่เทบอแรกซ์ 3 ช้อนโต๊ะลงในท่อน้ำทิ้ง ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง ทำอย่างนี้ เดือนละ 2 ครั้ง ปัญหาท่ออุดตันก็จะไม่มากวนใจเราอีก
11. เบกกิ้งโซดา
เราพูดถึงเบกกิ้งโซดากันอยู่บ่อยครั้ง ในเรื่องของการใช้เป็นอุปกรณ์เช็ด ล้าง ทำความสะอาดสิ่งของต่าง ๆ แต่คุณสมบัติอีกข้อของเบกกิ้งโซดาที่เรายังไม่ได้พูดถึงก็คือ คุณสมบัติในเรื่องของการกำจัดกลิ่น เราสามารถใช้เบกกิ้งโซดากำจัดกลิ่นหอม กระเทียมที่ติดตามนิ้วมือเราได้ ด้วยการใช้เบกกิ้งโซดาในปริมาณเล็กน้อยล้างมือแทนสบู่ก็ได้นะครับ
12.ซอสมะเขือเทศ
ซอสมะเขือเทศที่เราใช้จิ้มเพื่อเพิ่มรสอาหารในครัวบ้านเรานี่ล่ะค่ะ สามารถใช้ขจัดคราบไหม้ที่ติดแน่นอยู่ตามผนังข้าง ๆ เตาไมโครเวฟได้ง่าย ๆ เริ่มด้วยการตั้งไมโครเวฟที่กำลังไฟต่ำสุด แล้วกดปุ่มให้เครื่องทำงานสักพักให้พออุ่น ๆ จากนั้นป้ายซอสมะเขือเทศไปตามจุดที่เปื้อน ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วใช้ผ้าเช็ดออกก็เรียบร้อย นอกจากนี้ ซอสมะเขือเทศยังสามารถช่วยคืนความใหม่ให้หม้อสังกะสีได้อีกด้วย วิธีการก็คือ ทาซอสมะเขือเทศบาง ๆ ให้ทั่วทั้งหม้อ ทิ้งไว้สักพักแล้วล้างออก เท่านี้หม้อของคุณก็จะกลับมาเหมือนใหม่ได้แล้ว
เรียบเรียงข้อมูลเพิ่มเติมโดย manman