หลังน้ำท่วมวิธีทำความสะอาดบ้าน

คลิปสาระเรื่องการทำความสะอาดบ้านหลังน้ำลด

ในช่วงนี้ผู้ที่ประสบอุทกภัยจนต้องอพยพออกจากบ้าน อาจเริ่มทยอยกลับเข้าบ้านกันแล้ว หลังจากทางการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พยายามคิดหาวิธีพา “น้องน้ำ” กลับสู่แม่น้ำ และ ท้องทะเล วันนี้เราจึงขอเสนอวิธีการทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วมมาฝากคนที่กลับเข้าไปดูสภาพบ้าน แล้วไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี
อันดับแรกเริ่มจาก เลาะซิลิโคนที่เราอัดรูระหว่างประตู เพื่อป้องกันน้ำเข้าตัวบ้าน

1.ให้ใช้มีดปลายแหลมกรีดตามซิลิโคลนที่ยิงไว้

2.เมื่อเอากำแพงกั้นน้ำออกจะมีรอยเลอะและคราบของซิลิโคลนติดอยู่ ให้ใช้มีดปลายแหลมลอกซิลิโคนออก

3.ใช้มีดปลายแหลมขูดเศษของซิลิโคนออกอีกที4.ทำความสะอาดลอกซิลิโคนออก จากกำแพงกั้นน้ำสังกะสีหรือแผ่นโพลีคาร์บอนเนตด้วยความปราณีต (เผื่อจะได้เอากำแพงกั้นน้ำนี่ไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นต่อ)

4.เก็บกวาดอีกครั้งเป็นอันเสร็จขั้นตอนการเปิดประตูสู่ตัวบ้านเมื่อ เข้าสู่ตัวบ้านก็เริ่มปฏิบัติการลำดับที่สอง ทำความสะอาดและฟื้นฟูตัวบ้านที่เต็มไปด้วยความสกปรก สิ่งของระเกะระกะที่ถูกสายน้ำซัดกระจัดกระจาย รวมทั้งคราบเชื้อรา และ เชื้อโรคที่มาพร้อมคราบสกปรกต่างๆ ซึ่งเรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งเชื้อโรคเหล่านั้นอาจทำให้เกิดอาการแพ้ หรือเข้าไปสะสมในร่างกาย ซึ่งหากใครมีภูมิต้านทานต่ำ หรือบ้านที่มีผู้ป่วย คนแก่ และเด็กเล็ก ก็อาจทำให้เจ็บป่วยได้
1.ก่อนอื่นให้กันคนป่วย ภูมิต้านทานต่ำ เด็กเล็ก และผู้สูงอายุ ออกนอกตัวบ้านก่อน
2.เปิดหน้าต่างทุกบานทิ้งไว้ประมาณ 20 – 30 นาที3.ผู้ที่จะเข้าไปทำความสะอาดควรสวมหน้ากากอนามัย ถุงมือ และรองเท้าบูธยาง เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายสัมผัสกับเชื้อโรคต่างๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศหรือตามพื้น-ผนัง

5.จัดเก็บสิ่งของ เครื่องใช้ และ เฟอร์นิเจอร์ที่กระจัดกระจายไว้ที่มุมหนึ่งของตัวบ้าน เพื่อสะดวกในการทำความสะอาด

6.ใช้ผ้าชุบน้ำสบู่เช็ด หรือผงซักฟอกไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อออกดีแล้วควรเช็ดตามด้วยน้ำผสมคลอรีนหรือน้ำยาฟอกผ้าขาวที่มีขายทั่วไป เช่น ไฮเตอร์ น้ำยาขัดพื้น-ห้องน้ำ (ในกรณีภายในบ้าน)

7.ใช้แปรงขัดห้องน้ำแบบยืนขัด จะช่วยให้คราบสกปรกออกได้ดี (ในกรณีภายนอกตัวบ้าน ผนังปูน หรือผนังพื้นผิวหยาบ)

**การทำความสะอาดคราบสกปรกต่างๆ ไม่ควรใช้น้ำแรงดันสูงฉีด เพราะจะทำให้เชื้อโรคฟุ้งกระจาย

8.ช่วงเวลาที่ทำความสะอาดบ้าน ควรหยุดพักกออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ทุกๆ 1-2 ชั่วโมง เพื่อลดการสูดดมเชื้อรา

9.ทำความสะอาดเครื่องใช้ต่างๆ ใช้น้ำยาฟอกผ้าขาว และเช็ดด้วยน้ำผสมคลอรีน (กรณีพบคราบเชื้อราที่ขัดไม่ออกให้ใช้น้ำส้มสายชูขัดออกก่อน จึงใช้น้ำยาฟอกขาวอีกครั้ง และตามด้วยน้ำผสมคลอรีน) แล้วนำออกตากแดดให้แห้งสนิท หากพบว่าคราบเชื้อราเช็ดล้างไม่ออก ตัดใจทิ้งดีกว่า เพราะนั่นคือแหล่งเพาะเชื้อโรขนานเอก โดยเฉพาะ พรม เบาะ ที่นอน

10.เสื้อผ้า ผ้าม่าน และผ้าห่ม หากพบเชื้อรา ให้ฆ่าเชื้อเบื้องต้นด้วยการใช้ความร้อน(ต้ม) จากนั้นขยี้แล้วซักให้สะอาดหลายๆ ครั้ง นำไปตากในที่ที่มีแสงแดดเท่านั้น เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อ

10.เมื่อทำความสะอาดภายในบ้านเสร็จแล้ว ให้เปิดหน้าต่างทิ้งไว้ เพื่อให้แดดส่องเข้าไปในตัวบ้าน เพื่อไล่ความชื้นออกจากตัวบ้านค่ะ

11.สำหรับบ้านที่ติดเครื่องปรับอากาศ ไม่ควรเปิดเครื่องปรับอากาศโดยที่ยังไม่ทำความสะอาดก่อน เพราะจะทำให้เชื้อโรคถูกดูดเข้าไปในระบบปรับอากาศ กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคได้ แนะนำให้เปลี่ยน Filter ของเครื่องปรับอากาศก่อนการใช้งาน

หลังจากย้ายกลับเข้ามาอยู่ในบ้าน หากมีอาการผิดปกติ เช่น ผื่นแพ้ , หายใจติดขัด ควรรีบพบแพทย์ เพื่อหาสาเหตุของอาการนั้นๆ

เรียบเรียงข้อมูลโดยmanman